สุดสัปดาห์นี้ยังคงเป็นช่วงเวลาทองของหนังไทย หลังจากที่สองหนังไทยฟอร์มเต็งพากันยึดหัวตารางสัปดาห์นี้เอาไว้ได้แบบเบ็ดเสร็จ โดยอันดับ 1 นั้นได้เวลาเปลี่ยนมือให้กับแชมป์ใหม่อย่าง Homestay ตามคาด เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไปที่ 37.49 ล้านบาท (รวมทั่วทั้งประเทศเก็บเงินสุดสัปดาหฺ์แรกไปถึง 65.5 ล้านบาท!) ถือว่าออกสตาร์ทได้ไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับหนังไทยที่มาพร้อมกับแนวค่อนข้างแปลกใหม่ และขายดารานำซึ่งเป็นนักแสดงวัยรุ่นด้วย รวมไปถึงไต่ขึ้นมาถึง Top 3 หนังไทยเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดในรอบปีนี้อีกด้วย (หยุดอยู่ที่อันดับ 3 ตามหลัง นาคี ๒ และ น้อง.พี่.ที่รัก อยู่พอสมควร) และติด Top 15 หนังเปิดตัวสูงสุดของปีนี้เช่นกัน (อยู่อันดับที่ 13 ตามหลังหนังบู๊ถล่มเมืองของเฮียเดอะร็อค อย่าง Rampage อยู่พอประมาณ ที่ 43 ล้านบาท)

แต่เมื่อมาดูในกลุ่มหนังจากค่าย GDH ด้วยกัน น่าเสียดายที่หนังไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมาถึง Top 3 หนังเปิดตัวสูงสุดตลอดกาลของค่ายได้อย่างที่หวังไว้ โดยสิงอยู่ที่อันดับ 4 ตามหลังหนังฮิตร่วมค่ายเมื่อปีก่อนอย่าง ฉลาดเกมส์โกง เปิดตัวแบบไม่เกรงกลัวหนังฟอร์มโตช่วงซัมเมอร์เลยแม้แต่น้อยที่ 41 ล้านบาท ส่วนในเครดิตของทีมนักแสดงและผู้กำกับของเรื่องนั้น มีคนที่ได้เฮก่อนใครเพื่อนไปแล้ว นั่นก็คือนางเอกสาว เฌอปราง BNK48 ที่นอกจากจะได้หนังเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดแบบชิลๆ ไปแล้ว หนังยังใช้เวลาเพียง 2 วันเท่านั้น ขึ้นแท่นเป็นหนังทำเงินสูงสุดในเครดิตของเธออีกด้วย! (เอาชนะสารคดี BNK48: Girls Don’t Cry ที่ 13 ล้านบาทไปไกลโขทีเดียว!) ซึ่งก็มีอีกสองคนที่ได้สถิติใหม่เช่นกัน แต่เฉพาะสถิติหนังเปิดตัวสูงสุดในเครดิตเท่านั้น นั่นก็คือคุณสู่ขวัญ บูลกุล (เอาชนะหนังเรื่องแรกอย่าง รัก 7 ปี ดี 7 หน เคยเปิดตัวเอาไว้ที่ 28 ล้านบาท) และคุณพลอย เฌอมาลย์ (เฉือนชนะ 30+ โสด ON SALE ที่เคยเปิดตัวเอาไว้ถึง 35 ล้านบาท) ส่วนในเครดิตพระเอกหนุ่มเจมส์ ธีรดนย์นั้น โฮมสเตย์ตามหลังรายได้เปิดตัวของ ฉลาดเกมส์โกง (41 ล้านบาท) เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ขณะที่ผู้กำกับภาคภูมิ วงศ์ภูมิ นอกจากจะได้สถิติหนังทำเงินสูงสุดใหม่ในฐานะผู้กำกับเดี่ยวเรื่องแรก เมื่อรวมหนังเรื่องอื่นๆ ในเครดิตคุณโอ๋ที่กำกับร่วมกับผู้กำกับท่านอื่นๆ เข้ามาด้วย รายได้เปิดตัวของโฮมสเตย์ก็เป็นรองแค่ 5 แพร่ง (48 ล้านบาท) เพียงเรื่องเดียวด้วยเช่นกัน ตอนนี้ก็คงเหลือให้ลุ้นแค่ว่าหนังจะทำเงินทะลุหลัก 100 ล้านตามรุ่นพี่ร่วมค่ายหลายๆ เรื่องได้หรือไม่ ซึ่งอาจจะมีสถิติที่ชวนหนักใจอยู่ซักหน่อยตรงที่ว่านับตั้งแต่ ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ เมื่อ 14 ปีก่อนเป็นต้นมา ยังไม่มีหนังไทยเรื่องไหนที่เปิดตัวต่ำกว่า 40 ล้านแล้วทำเงินสุดท้ายเกินหลัก 100 ล้านได้อีกเลย!

แชมป์เก่าหนังไทยกระแสแรงอย่าง นาคี ๒ แม้จะโดนเบียดร่วงลงมาอยู่อันดับ 2 แต่ก็ยังคงเดินหน้าเก็บเงินไปแบบไม่อ่อนแรงมากเท่าไหร่นัก โดยสุดสัปดาห์ที่สองเก็บเงินไปอีก 25.15 ล้านบาท (ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้วไป 65%) พลาดตำแหน่งหนังไทยทำเงินสุดสัปดาห์ที่สองสูงสุดของปีนี้ไปนิดเดียว (ตามหลัง น้อง.พี่.ที่รัก ไม่ถึงครึ่งล้านเท่านั้น!) แต่ยังคงติดอยู่ใน Top 5 หนังทำเงินสุดสัปดาห์ที่สองสูงสุดของปีนี้อยู่ (หยุดอยู่ที่อันดับ 5 ตามหลัง Avengers: Infinity War, Jurassic World: Fallen Kingdom, Black Panther และ น้อง.พี่.ที่รัก เช่นเดิม) ส่วนรายรับรวมสองสัปดาห์นั้นกวาดไปแล้วถึง 140.54 ล้านบาท (ทั่วทั้งประเทศเก็บเงินทะลุ 400 ล้านไปแล้ว!) ขยับเข้าไปใกล้ตำแหน่งหนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้แทบจะแค่เอื้อมแล้วจริงๆ (ตามหลัง น้อง.พี่.ที่รัก อีกเพียง 6 ล้านบาท) ซึ่งหากแซง น้อง.พี่.ที่รัก หนังก็จะคว้าที่นั่งใน Top 5 หนังทำเงินสูงสุดของปีนี้ติดมือมาอีกตำแหน่งอีกด้วย! (ตอนนี้หยุดอยู่ที่อันดับ 6 จ่อหลัง น้อง.พี่.ที่รัก อยู่นั่นเอง)

หนังใหม่อย่าง Hunter Killer กลายเป็นจากต่างแดนอันดับสูงสุดในสัปดาห์นี้ ที่อันดับที่ 3 เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไปที่ 10.5 ล้านบาท ถือเป็นรายได้เปิดตัวที่ค่อนข้างโอเคอยู่สำหรับหนังแอ็กชั่นฟอร์มไม่ยักษ์เท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหนังที่ทำได้ใกล้เคียงกันเรื่องก่อนหน้า อย่างหนังบู๊สนั่น Mile 22 ก็เปิดตัวได้น้อยกว่ากันเกือบครึ่ง ที่ 6 ล้านบาท หรือเทียบกับหนังปล้นของเฮียเจอราร์ด บัตเลอร์ที่เข้าฉายในปีนี้เช่นกันอย่าง Den of Thieves ก็เปิดตัวได้ไม่หนีไปจากเรื่องข้างบนเท่าไหร่ (ทำเอาไว้ที่ 6.7 ล้านบาท)

ส่วนอันดับอื่นๆ ที่น่าสนใจในตาราง หนังฮีโร่ขาโหดอย่าง Venom เก็บเงินสามสัปดาห์ไปแล้ว 133.89 ล้านบาท อุตส่าห์เพิ่งจะแซง Ant-Man and the Wasp (128 ล้านบาท) ขึ้นมาเป็นหนังทำเงินสูงอันดับ 6 ของปีนี้ได้ไม่กี่วัน กลับโดน นาคี ๒ แซงปาดหน้า ถีบลงมาอยู่อันดับ 7 อีกแล้ว! (และก็น่าจะขึ้นไปเหนือจากนี้ไม่ไหวแล้ว เพราะนอกจากจะตามหลัง นาคี ๒ อยู่ ยังต้องแซง น้อง.พี่.ที่รัก ที่ทำเงินเอาไว้เยอะกว่ามากกว่าสิบล้านบาทโน่นเลย)

Doraemon the Movie ภาคล่าสุดประจำปีนี้อย่าง Nobita’s Treasure Island เก็บเงินสองสัปดาห์ไปแล้ว 11.75 ล้านบาท นอกจากจะขึ้นแท่นเป็นหนังญี่ปุ่นทำเงินสูงสุดในบ้านเราปีนี้ไปแล้ว ยังใกล้จะคว้าตำแหน่งแชมป์หนังเอเชียทำเงินสูงสุดในบ้านเราปีนี้มาอีกตำแหน่งด้วย! (ตามหลังหนังเกาหลีภาคต่อฟอร์มยักษ์ อย่าง Along with the Gods: The Last 49 Days แค่ไม่กี่แสนแล้ว) แต่น่าเสียดายที่หนังพลาดท่า อดคว้าตำแหน่ง Doraemon the Movie ฉบับอนิเมะสองมิติภาคที่ทำรายได้รวมสูงที่สุดตลอดกาลในบ้านเราในสัปดาห์นี้ไปแบบเฉียดฉิว (ตามหลังภาค Nobita’s Secret Gadget Museum เมื่อ 5 ปีก่อนแค่ไม่กี่หมื่นเอง!)

แชมป์สองสัปดาห์ติดในฝั่งอเมริกาอย่าง Halloween เปิดตัวชิมลางรอบพิเศษในบ้านเราไป  1.38 ล้านบาท กลายเป็นหนังเปิดตัวรอบพิเศษสัปดาห์แรกสูงสุดในบ้านเราปีนี้ไปแล้ว (เฉือนเอาชนะแอนิเมชั่นภาคต่ออย่าง Hotel Transylvania 3: Summer Vacation ไปแค่ไม่กี่หมื่นเท่านั้น! ที่ 1.34 ล้านบาท) และมีลุ้นทำเงินเปิดตัวอันดับต้นๆ ของกลุ่มหนังสยองขวัญปีนี้ในสัปดาห์หน้าอีกด้วย

สองหนังไทยที่ขับเคี่ยวกัน ช่วยดันให้ Top 10 สุดสัปดาห์นี้ เก็บเงินรวมกันไปถึง 84 ล้านบาท (เฉพาะ รายได้ของ Homestay และ นาคี ๒ รวมกันก็ทำเงินเกือบ 3 ใน 4 ของ Top 10 สัปดาห์นี้รวมกันแล้ว!)
ลดลงจาก Top 10  สุดสัปดาห์ก่อน 21%  (107 ล้านบาท)
แต่เพิ่มขึ้นจาก Top 10  สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อนมากถึง 600%!!! (12 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่ตรงกับช่วงวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ จึงแทบไม่มีหนังใหม่เข้าฉายเนื่องจากโรงหนังหยุดทำการหนึ่งวัน ทำให้หนังไซไฟมหันตภัย Geostorm ยังคงครองแชมป์ต่อเป็นสมัยที่สามอย่างไม่ยากเย็นนัก ด้วยรายได้ 5 ล้านบาท