สุดสัปดาห์นี้ยังคงเป็นช่วงเวลาทองของหนังไทยอีกหนึ่งสัปดาห์ หลังอีกหนึ่งหนังไทยฟอร์มเต็งอย่าง Homestay ครองแชมป์ในวันเปิดตัวแบบไม่ยากเย็นนัก เปิดตัววันแรกไป 8.8 ล้านบาท (รวมรายได้ทั่วทั้งประเทศ เก็บวันแรกไปแล้ว 14.5 ล้านบาท) ถือว่าสูงมากทีเดียวสำหรับหนังที่มีจุดขายเป็นนักแสดงนำวัยรุ่น ซึ่งเมื่อเทียบกับหนังไทยในรอบปีนี้ด้วยกัน โฮมสเตย์เพิ่งจะเป็นหนังไทยเรื่องที่สามเท่านั้นที่เปิดตัววันแรกเกินห้าล้านบาท โดยหนังมาหยุดอยู่อันดับ 3 หนังไทยเปิดตัววันแรกสูงสุดของปีนี้ ตามหลังสองหนังไทยสุดฮิตอย่าง นาคี ๒ และ น้อง.พี่.ที่รัก ที่เปิดตัววันแรกในระดับเกินสิบล้านเพียงสองเรื่องเท่านั้น

ส่วนในกลุ่มหนังค่าย GDH ด้วยกัน นอกจากรายได้เปิดตัววันแรกจะสูงถึงอันดับ 3 ตลอดกาลของค่าย (แถมแพ้ ฉลาดเกมส์โกง ไปแค่แสนเดียว!) รายได้วันแรกระดับ 8 ล้านของหนังก็เรียกได้เดินตามรอยหนังฮิตของค่ายสามเรื่องก่อนหน้าไปแบบติดๆ จนทำให้แฟนๆ ที่ลุ้นว่าหนังจะทำเงินทะลุหลักร้อยล้านไหวหรือไม่ คงเริ่มใจชื้นกันขึ้นมาบ้าง (สถิติที่ผ่านมาของค่าย GDH คือ หนังที่เปิดตัววันแรกเกิน 8 ล้านบาทขึ้นไปต่างก็ปิดรายรับสุดท้ายเกินหลักร้อยล้านด้วยกันทั้งหมด) ทางด้านเครดิตของนักแสดงนำและผู้กำกับ มีเพียงคนเดียวที่ได้โฮมสเตย์เป็นหนังเปิดตัววันแรกสูงสุดในเครดิตนั่นก็คือสาวเฌอปราง จากวง BNK48 ในฐานะนางเอกหนังเรื่องแรก (เปิดตัววันแรกมากกว่าหนังสารคดีที่เธอร่วมออกกล้องพร้อมๆ กับเพื่อนทั้งวง อย่าง BNK48: Girls Don’t Cry เคยทำเอาไว้ที่ 3.8 ล้านบาท) ส่วนพระเอกหนุ่ม เจมส์ ธีรดนย์ (เป็นรองแค่ ฉลาดเกมส์โกง เพียงเรื่องเดียว เคยทำเอาไว้ที่ 8.9 ล้านบาท) และผู้กำกับโอ๋ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ (มีหนังกำกับร่วมหนึ่งตอนอย่าง ห้าแพร่ง เป็นหนังเปิดตัววันแรกสูงสุด ทำเอาไว้สูงกว่าเกือบเท่าตัว ที่ 15 ล้านบาท) อาจจะต้องไปลุ้นรายได้สุดสัปดาห์แรกสูงสุดเอาแทนเสียแล้ว

แชมป์เก่าเจ้าของปรากฏการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนอย่าง นาคี ๒ โดนเบียดร่วงลงมาอยู่อันดับที่สอง เก็บรายได้พฤหัสนี้ไปอีก 4.67 ล้านบาท ลดลงจากพฤหัสแรกค่อนข้างเยอะทีเดียว (รูดลงมาถึง 73%!!) แต่ถึงอย่างไร รายได้วันพฤหัสสัปดาห์ที่สองของหนังก็ยังคงสูงสุดในกลุ่มหนังไทยปีนี้อยู่ (เฉือนชนะ น้อง.พี่.ที่รัก ที่ 4.1 ล้านบาทไปแค่ครึ่งล้าน) รวมไปถึงเป็นรายได้วันพฤหัสสัปดาห์ที่สองสูงอันดับ 4 ของปีนี้อีกเช่นกัน (ตามหลังยักษ์ใหญ่อย่าง Avengers: Infinity War, Jurassic World: Fallen Kingdom และ Black Panther เช่นเดิม และแพ้ราชาเสือดำไปแค่สองแสนบาทเท่านั้น!) ส่วนรายได้รวมของหนังทะลุหลัก 100 ล้านไปแล้วตั้งแต่วันหยุดวันปิยมหาราชที่ผ่านมา โดยใช้เวลาไปทั้งสิ้น 6 วัน ถือว่าเป็นหนังไทยที่ทำเงินทะลุหลักร้อยล้านเร็วที่สุดของปีนี้ (แซง น้อง.พี่.ที่รัก ที่ใช้เวลา 9 วัน) และเป็นหนังทำเงินผ่านหลักร้อยล้านเร็วเป็นอันดับ 4 ของปีนี้อีกด้วย คาดว่าหลัก 150 ล้าน (ควบตำแหน่งหนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนี้) คงอยู่ห่างออกไปแค่ไม่กี่วันแล้ว แต่หลัก 200 ล้านอาจจะต้องลุ้นเหนื่อยซักหน่อย (ส่วนรายได้ทั่วประเทศ แว่วๆ มาว่าเกือบทะลุหลัก 400 ล้านบาทแล้ว)

หนังใหม่จากต่างแดนอย่าง Hunter Killer ฝ่ากระแสหนังไทยขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 กับรายได้เปิดตัวที่ 2.3 ล้านบาท ถือว่าทำได้ไม่เลวเลยสำหรับหนังแอ็กชั่นฟอร์มไม่ใหญ่มากนัก ที่ต้องแย่งคนดูมาจากสองหนังไทยกระแสแรงแบบนี้ เรื่องก่อนหน้าที่ใกล้เคียงกันเห็นจะเป็นหนังแอ็กชั่นบู๊ระห่ำอย่าง Mile 22 เคยเปิดตัวในบ้านเราไปน้อยกว่าพอสมควร ที่ 1.2 ล้านบาท หรือเทียบกับหนังของเฮียเจอราร์ด บัตเลอร์ที่เข้าฉายในปีนี้เช่นกันอย่าง Den of Thieves ก็เปิดตัววันแรกเกินหลักล้านมาไม่มากอีกเช่นกัน (1.4 ล้านบาท)

ส่วนอันดับอื่นๆ ที่น่าสนใจในตาราง หนังฮีโร่พันธุ์โหดอย่าง Venom ทำเงินรวมไปแล้วเกือบ 130 ล้านบาท ซึ่งก็มากพอที่จะแซงอีกหนึ่งหนังฮีโร่มาร์เวล อย่าง Ant-Man and the Wasp (128 ล้านบาท) ขึ้นมาเป็นหนังทำเงินสูงอันดับ 6 ของปีนี้ได้แล้วล่ะ

Doraemon the Movie ภาคล่าสุดประจำปีนี้อย่าง Nobita’s Treasure Island ทำเงินทะลุหลัก 10 ล้านจนได้ ซึ่งกลายเป็นหนังญี่ปุ่นเรื่องแรกของปีนี้ที่ทำเงินเกินสิบล้านบาทในบ้านเรา และเข้าใกล้ตำแหน่ง Doraemon the Movie ฉบับอนิเมะสองมิติภาคที่ทำรายได้รวมสูงที่สุดตลอดกาลในบ้านเราเข้าไปทุกที

หนังทำเงินฮิตถล่มทลายในฝั่งอเมริกาช่วงนี้ อย่าง Halloween ขอชิมลางเปิดฉายรอบพิเศษเรียกเสียงหวีดล่วงหน้าจากคนดูในบ้านเราก่อนถึงวันปล่อยผี เก็บเงินวันแรกไป 2.7 แสนบาท ถือว่าทำได้ไม่เลวเลย แถมเป็นหนังทำเงินวันพฤหัสแรกจากรอบพิเศษสูงสุดของปีนี้อีกด้วย! (แชมป์เก่าคือเจ้ากระต่าย Peter Rabbit เปิดตัวรอบพิเศษวันแรกไป 1.6 แสนบาท) รวมไปถึงเป็นรายได้รอบพิเศษวันแรกในกลุ่มหนังสยองสูงเป็นอันดับ 3 ของปีนี้ เป็นรอง A Quiet Place และ Hereditary เพียงสองเรื่องเท่านั้น