หนังภาคแยกของตัวร้ายชื่อกระฉ่อนจากจักรวาลไอ้แมงมุมอย่าง Venom เข้าป้ายแชมป์ในวันแรกไปตามคาด ด้วยรายได้เปิดตัวสูงถึง 16.47 ล้านบาท (รวมรอบพิเศษ ทำเงินรวมไปทั้งสิ้น 16.69 ล้านบาท) ถือเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับหนังภาคแรกซักเรื่อง ถึงขนาดไต่ขึ้นไปถึง Top 5 หนังเปิดตัววันแรกสูงสุดในบ้านเราประจำปีนี้เลยทีเดียว (มาหยุดอยู่ที่อันดับ 4 ตามหลังฮีโร่มาร์เวลสุดฮิตอีกเรื่องในปีนี้อย่าง Black Panther เปิดตัววันพุธเป็นวันแรกไปถึง 22 ล้านบาท) รวมไปถึงเปิดตัววันแรกสูงในระดับระดับสถิติอันดับต้นๆ ของหนังซูเปอร์ฮีโร่ฉายเดี่ยวภาคแรกในบ้านเราเลยทีเดียว (ไต่ขึ้นมาถึงอันดับ 2 เป็นรอง Black Panther เจ้าเก่าเพียงเรื่องเดียว) หรือถ้ามองว่านี่คือหนัง “ซูเปอร์วายร้าย” เป็นตัวนำ หนังก็จะขึ้นแท่นแชมป์เปิดตัววันแรกสูงสุดของกลุ่มหนังซูเปอร์วายร้ายในบ้านเราไปเลยทันที (เอาชนะหนังรวมพลซูเปอร์วายร้ายของฝั่ง DC อย่าง Suicide Squad ไปแบบสบายๆ ที่ 13 ล้านบาท) ส่วนในกลุ่มหนังจักรวาล Spider-Man ด้วยกัน อาจจะสู้ไอ้แมงมุมยุคหลังๆ ของเราไม่ได้ซักเท่าไหร่ (ตั้งแต่ Spider-Man 3 เมื่อ 11 ปีก่อนเป็นต้นมา หนังตระกูล Spider-Man เปิดตัววันแรกในบ้านเราไม่ต่ำกว่าหลัก 16 ล้านบาทกันทั้งนั้น!)

แชมป์เก่าอย่าง Johnny English Strikes Again ที่ได้รับผลกระทบจากการมาของเจ้าวายร้ายฟอร์มเต็งไปเต็มๆ โดนเบียดร่วงลงมาอยู่อันดับ 2 พร้อมกับรายได้วันพฤหัสนี้ที่รูดลงมาต่ำกว่าหลักล้าน อยู่ที่ 9.9 แสนบาท ลดลงจากพฤหัสแรกถึง 77% เลยทีเดียว! เก็บรายได้ 8 วันไปแล้ว 28.36 ล้านบาท ถือว่าอาการน่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน นอกจากโอกาสที่จะลุ้นทำเงินสูงสุดในตระกูลสายลับอิงลิชด้วยกันจะหมดไปอย่างสมบูรณ์แล้ว (ภาคสองเคยทำเอาไว้เกือบ 70 ล้านบาทเลยทีเดียว) หนังยังต้องมาลุ้นอีกว่าจะยังพอมีโอกาสแซงภาคแรก (เก็บเงินไปมากกว่า 40 ล้านบาท) ได้อยู่หรือไม่

เปิดตัวเข้ามาในอันดับ 3 กับหนังรีเมคลุ้นรางวัลอย่าง A Star Is Born ที่ได้พระเอกหนุ่มแบรดลีย์ คูเปอร์ ควบตำแหน่งกำกับ และแสดงนำประกบนักร้องสาว เลดี้กาก้า ในฐานะนางเอกหนังครั้งแรก เปิดตัววันแรกไปที่ 4.1 แสนบาท ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว สำหรับหนังที่เข้าฉายแบบจำกัดมาก (ไม่ถึง 20 โรงในบ้านเรา) เทียบกับหนังที่น่าจะใกล้เคียงกันก็เห็นจะเป็นหนังเพลงภาคต่ออย่าง Mamma Mia! Here We Go Again ที่แม้จะได้โรงฉายไปมากกว่ากันเกินเท่าตัว (ระดับ 40 โรง) แต่กลับเปิดตัววันแรกไปน้อยกว่านิดหน่อย ที่ 3.9 แสนบาท ส่วนพระเอกแบรดลีย์ คูเปอร์ หากไม่นับสองหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Guardians of the Galaxy Vol. 2 และ Avengers: Infinity War ที่เขามาแต่เสียง A Star Is Born ก็จะกลายเป็นหนังเปิดตัวสูงสุดของเขาในรอบสามปีเลยทีเดียว (ตามหลังหนังฮิตในบ้านเกิดและส่งเขาไปลุ้นออสการ์นำชาย อย่าง American Sniper เคยเปิดตัวในบ้านเราไป 2 ล้านบาท)

ส่วนหนังเก่าๆ เรื่องอื่นในสัปดาห์นี้ต่างก็พาทำเงินรูดระนาวกันถ้วนหน้า อย่างหนังไทย ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก ที่สัปดาห์ก่อนๆ ทำเงินลดลงต่อสัปดาห์ค่อนข้างจะน้อยมาโดยตลอด แต่พอต้องมาชนกับหนังยักษ์ฟอร์มเต็งจริงๆ พฤหัสนี้เลยทำเงินลดลงจากพฤหัสที่แล้วถึง 72%! (เก็บเงินไปอีก 4 แสนบาท) แต่อย่างน้อยก็ทำเงินสี่สัปดาห์ทะลุ 60 ล้านบาทไปแล้ว ส่วน The House with a Clock in Its Walls และ The Pool นรก 6 เมตร ยังคงร่วงแรงไม่ต่างจากสัปดาห์ก่อน เก็บเงินพฤหัสนี้ไป 2.1 และ 2 แสนบาท ตามลำดับ (ลดลงจากพฤหัสที่แล้ว -79% และ -75%)

แต่กลับมีหนังเก่าหนึ่งเรื่องในสัปดาห์นี้ที่สร้างเซอร์ไพรส์จากกระแสปากต่อปากที่ดีเกินคาด นั่นก็คือหนังทุนต่ำรีวิวดีอย่าง One Cut of the Dead ที่เก็บเงินพฤหัสนี้ไปอีก 1.2 แสนบาท เพิ่มขึ้นจากพฤหัสแรก (8 หมื่นบาท) 39% เลยทีเดียว! ถือว่าหาได้ยากอยู่เหมือนกันที่จะได้เห็นหนังซักเรื่องทำเงินในวันพฤหัสสัปดาห์ที่สองเพิ่มขึ้นมาจากพฤหัสแรก โดยที่จำนวนโรงไม่ได้แตกต่างจากสัปดาห์แรกซักเท่าไหร่ ซึ่งในรอบปีนี้มีไม่ถึงสิบเรื่องเลยด้วยซ้ำ ที่สามารถทำเงินวันพฤหัสสัปดาห์ที่สองเพิ่มขึ้นจากพฤหัสแรกได้ (เรื่องที่กระโดดขึ้นมาจากพฤหัสแรกเป็น % เยอะกว่า มีเพียง The Shape of Water และ Love Simon สองเรื่อง ที่กระโดดขึ้นมาจากพฤหัสแรก +107% และ +40% ตามลำดับ)