ถือเป็นข่าวการสูญเสียหนึ่งในบุคคลมากฝีมือของวงการบันเทิงไทย ที่สร้างความเสียใจให้กับคนในวงการ และแฟนๆ อยู่ไม่น้อย กับการจากไปของอดีตพระเอกชื่อดัง โอ-วรุฒ วรธรรม ที่ได้จากไปอย่างสงบในวันที่ 11 กันยายน
คุณโอ-วรุฒมีผลงานการแสดงทั้งในจอแก้วและจอเงินมามากมายตลอดสามสิบปีที่ผ่านมา โดยแสดงในหนังโรง(รวมหนังที่ให้เสียงพากย์ด้วย)เป็นจำนวนทั้งสิ้น 17 เรื่อง ซึ่งเกินกว่าครึ่งเป็นหนังของค่ายไฟว์สตาร์ (ช่วงปี 2531-2535) ในยุคที่กำลังรุ่งเรืองสุดขีด ก่อนที่คุณโอจะเริ่มรับงานแสดงหนังโรงน้อยลง
ดังนั้นทาง Theaterist จึงได้รวบรวมข้อมูล 10 อันดับหนังโรงทำเงินสูงสุดตลอดชีวิตการแสดงของคุณโอ-วรุฒ มาให้ทุกท่านได้ย้อนรำลึกผลงานของนักแสดงท่านนี้กันอีกครั้ง

10. นางอาย (2533) : ทำรายได้ 5 ล้านบาท
แฟนๆ ละครหลายคนอาจจะคุ้นๆ ชื่อนี้ เพราะช่อง 3 เพิ่งจะนำนวนิยายเรื่องนี้ไปดัดแปลงเป็นละครเมื่อสองปีก่อนนี่เอง ส่วนเวอร์ชั่นหนังโรงของค่ายไฟว์สตาร์ กำกับโดยผู้กำกับ สักกะ จารุจินดา และได้คู่ขวัญแห่งยุคในตอนนั้นอย่างคุณสันติสุข และคุณจินตหรามารับบทพระ-นางของเรื่องอีกเช่นเคย เรื่องราวของเด็กสาวผู้ถูกส่งไปใช้ชีวิตในโรงเรียนคอนแวนต์ที่ต่างแดน โดยในเรื่องนี้ คุณโอรับบท “คัมพล” พระรองของเรื่อง หนังถือว่าทำเงินไปพอสมควร ติดอันดับ 1 ใน 10 หนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนั้นด้วย

9. ก็เคยสัญญา (2548) : ทำรายได้ 5 ล้านบาท
หนังหลากตอน-หลายชาติ(ภพ) ที่ได้ดาราและนักแสดงตลกมาร่วมจอกันมากหน้าหลายตา โดยคุณโอรับบท “นิกร” ชายหนุ่มผู้เข้ารับการสะกดจิต เพื่อระลึกย้อนกลับไปดูชาติต่างๆ ของเขาในอดีต ที่ต่างก็ต้องกับพบเจ้ากับเนื้อคู่ในรูปแบบต่างๆ และพิศดารขึ้นทุกที ซึ่งต้นเหตุมาจากคำสัญญาสาบานในอดีตเก่าก่อนโน้นนั่นเอง แต่ท้ายที่สุดหนังถือว่าทำเงินได้ค่อนข้างน้อยสำหรับปีนั้น

8. คู่กรรม (2531) : ทำรายได้ 10 ล้านบาท
หนังไทยดัดแปลงจากนิยายระดับขึ้นหิ้งของคุณทมยันตี ถือเป็นการขึ้นจอใหญ่หนที่สองของวรรณกรรมเรื่องนี้ กำกับโดยผู้กำกับแถวหน้ายุคนั้นอย่างคุณรุจน์ รณภพ ซึ่งชักชวนให้คุณโอที่เพิ่งเข้าวงการมาใหม่ๆ แสดงหนังโรงเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก รับบทพระเอกโกโบริ คู่กับคุณจินตราที่รับบทอังศุมาลิน ท้ายที่สุดนอกจากหนังจะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม (หนังไทยทำเงินสูงอันดับ 3 ของปีนั้น) ยังช่วยแจ้งเกิดให้คุณโอดังเป็นพลุแตก และส่งคุณโอให้คว้ารางวัลตุ๊กตาเงิน สาขาดาวรุ่งฝ่ายชาย รวมไปถึงกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในกลุ่มหนังที่คุณโอรับบทเป็นพระเอกอีกด้วย

7. โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ (2534) : ทำรายได้ 13 ล้านบาท
อีกหนึ่งหนังดังจากค่ายไฟว์สตาร์ รวมดาราดังและหน้าใหม่วัยรุ่น ณ ตอนนั้นมาร่วมจอกันคับคั่ง นำทีมตะลุยป่าโดยนายพรานโก๊ะ (สันติสุข) คุณโอรับบท “โอสถ” หนึ่งในแก๊งนักศึกษา และถือเป็นหนังแจ้งเกิดให้กับนักแสดงหญิงมากฝีมืออย่าง คุณแอน ทองประสม อีกด้วย ซึ่งท้ายที่สุด โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ ก็กลายเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างที่ผู้สร้างคาดหวัง ติดหนึ่งในห้าหนังไทยทำเงินสูงสุดของปีนั้น

6. เฟรนด์ชิพ เธอกับฉัน (2551) : ทำรายได้ 14 ล้านบาท
เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนเก่ากลับมาพบกันอีกครั้ง ทำให้ สิงหา พระเอกของเรื่อง (คุณเจ เจตริน) หวนนึกถึงเรื่องราวในอดีตสมัย ม.ปลาย (รับบทโดยหนุ่มมาริโอ้ เมาเร่อ) รวมไปถึง มิถุนา (สายป่าน อภิญญา) นักเรียนหญิงร่วมห้องที่เขายังคงคิดถึงและหายไปจากชีวิตของเขา โดยคุณโอรับบทเล็กๆ เป็น “จุดเด่น” เพื่อนร่วมก๊วนของพระเอกสมัย ม.ปลาย ในวัยปัจจุบัน ส่วนรายได้ ถือว่าทำได้ไม่เยอะเท่าไหร่นัก

5. อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป (2535) : ทำรายได้ 15 ล้านบาท
อีกหนึ่งหนังที่ตัวเอกนึกย้อนเรื่องราวกลับไปในอดีตสมัยยังอยู่วัยเรียน ซึ่งหนังจากค่ายไฟว์สตาร์เรื่องนี้กำกับโดยสุดยอดผู้กำกับทำเงินในยุคนั้นอย่างคุณบัณฑิต ฤทธิ์ถกล และเป็นหนังรวมนักแสดงหน้าใหม่ ที่กำลังจะแจ้งเกิดในยุคนั้นอีกเพียบ ทั้งคุณแอน ทองประสม, คุณแคทลียา อิงลิช, คุณต่าย สายธาร และคุณโจ,ต๊ะ,ดิ๊บ จากวงบอยสเก๊าท์ โดยคุณโอรับรับเชิญเป็น “เป๊ก” หนึ่งในแก๊งนักเรียนในวัยปัจจุบัน ส่วนตัวหนังประสบความสำเร็จมากในปีนั้น คว้าทั้งเงินและกล่องไปมากมาย

4. หอ หึๆ (2535) : ทำรายได้ 16 ล้านบาท
หนังหลอนปนฮาจากค่ายไฟว์สตาร์อีกหนึ่งเรื่องจากผู้กำกับบัณฑิต ฤทธิ์ถกล (ปีเดียวกับอนึ่ง คิดถึงพอสังเขปที่เพิ่งพูดถึงไปข้างบนด้วย) เรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาและอาจารย์ ที่ต้องร่วมมือกันปราบเหล่าผีๆ ซึ่งถูกควบคุมโดยภารโรงคนใหม่ของมหาวิทยาลัยครู คุณโอรับบทเป็น “น้ำมนต์” หนึ่งในก๊วนเด็กนักศึกษา หนังถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เป็นหนังไทยทำเงินสูงอันดับ 2 ของปีนั้น

3. หอแต๋วแตก แหกมว๊ากมว๊ากกก (2555) : ทำรายได้ 26 ล้านบาท
หนังตลกภาคที่ 4 จากจักรวาลหอแต๋วที่ยังคงมีภาคต่อออกมาอยู่เรื่อยๆ ของผู้กำกับ พจน์ อานนท์ และกลายเป็นหนังโรงเรื่องสุดท้ายที่คุณโอได้ร่วมแสดง โดยรับบทเป็น “เจ๊ฮังเล” สมาชิกใหม่ของหอเจ๊แต๋ว ถือว่าทำเงินลดลงมาค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบกับสามภาคก่อนหน้า

2. ก้านกล้วย 2 (2552) : ทำรายได้ 73 ล้านบาท
แอนิเมชั่นไทยภาคต่อฟอร์มยักษ์ของเจ้าช้างสีฟ้า “ก้านกล้วย” โดยคุณโอให้เสียงพากย์เป็น “จิ๊ดริด” นกพิราบคู่หูของก้านกล้วย (แทนที่คุณหนุ่ย พงศ์สุขในภาคแรก) ซึ่งถึงแม้ภาคนี้จะทำเงินลดลงมาจากภาคแรกพอสมควร(ที่ทำไปเกือบร้อยล้าน) แต่หนังก็ยังคงเป็นแอนิเมชั่นทำเงินสูงในระดับหัวแถวของบ้านเราอยู่ ณ ตอนนี้

1. สุริโยไท (2544) : ทำรายได้ 324 ล้านบาท
ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่แห่งสยามประเทศของผู้กำกับระดับตำนาน ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ที่รวมดาราชื่อดังทั้งหลายรุ่นทั่วฟ้าเมืองไทยเอาไว้ในเรื่องนี้อย่างคับคั่ง รวมไปถึงคุณโอที่ได้เล่นหนังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน โดยรับบทเป็น “สีหตู” หนึ่งในขุนนางของฝั่งพม่า แน่นอนว่าทันทีที่หนังออกฉาย หนังสามารถทำรายได้อย่างถล่มทลาย ทุบทุกสถิติเป็นว่าเล่นและขึ้นแท่นเป็นหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้านเรา ณ ตอนนั้นอีกด้วย