สุดสัปดาห์นี้ หนังใหม่อย่าง ขุนพันธ์ 2 ประกาศศักดาให้กับหนังไทย ขึ้นแท่นเป็นแชมป์ประจำสัปดาห์ได้สำเร็จ (ซึ่งเพิ่งจะเป็นหนังไทยเรื่องที่ 3 ในรอบปีนี้เท่านั้นที่คว้าแชมป์ประจำสัปดาห์ได้) ด้วยรายได้เปิดตัว 18.94 ล้านบาท แม้จะพลาดหลัก 20 ล้านบาทไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ยังถือว่าเปิดตัวสูงในระดับหัวแถวของหนังไทยปีนี้อยู่ดี (อันดับ 3) ตามหลังแอนิเมชั่น 9 ศาสตรา ไปแค่ล้านกว่าๆ เท่านั้น!

ขณะที่หนังภาคนี้ แม้ทำเงินลดลงมาจากภาคก่อนพอสมควร (ภาคแรกเคยเปิดตัวไปถึง 26 ล้านบาท) แต่ก็ยังติดอยู่ในกลุ่มหนังเปิดตัวสูงสุดอันดับต้นๆ (อันดับที่ 4) ของพระเอกอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮมได้อยู่ดี (เป็นหนังเรื่องที่ 9 ของเฮียแกเข้าไปแล้วที่สามารถเปิดตัวเกินหลักสิบล้านได้ในบ้านเรา) ส่วนในเครดิตของสองเสือในเรื่องอย่าง หนุ่มเป้ อารักษ์ กับพันเอกเบิร์ดนั้น หนังพลาดที่จะติด Top 5 หนังเปิดตัวสูงสุดของทั้งคู่ไปอย่างน่าเสียดาย (อันดับ 6 และ 7 ตามลำดับ)

แชมป์เก่าสองสมัยอย่าง The Meg แม้จะร่วงลงมาอยู่อันดับสอง แต่ก็กวาดรายได้รวมสามสัปดาห์ไปแล้วถึง 75.9 ล้านบาท สถิติต่างๆ ของหนังดูเหมือนจะเริ่มนิ่งไปหมดแล้ว รวมไปถึงโอกาสที่หนังจะไต่ขึ้นไปถึง Top 10 หนังทำเงินสูงสุดประจำปีนี้ ดูท่าจะไม่ไหวแล้ว (ตอนนี้อยู่อันดับที่ 12) เพราะต้องเก็บให้ได้อย่างน้อยๆ ถึงเกือบ 90 ล้านโน่นเลยทีเดียวถึงจะสามารถทะลุขึ้นไปได้! (ตอนนี้เอาให้ถึง 80 ล้านยังลุ้นกันหนักเลย)

อีกสามหนังใหม่ที่มะรุมมะตุ้มกันอยู่ใน Top 5 ท้ายที่สุดก็กลายเป็นหนังฮิตเซอร์ไพรส์ในฝั่งอเมริกา อย่าง Crazy Rich Asians ที่คว้าอันดับเหนือเรื่องอื่นๆ ในกลุ่มหนังใหม่(ยกเว้นขุนพันธ์)ไปแบบเกินคาด ทั้งๆ ที่หนังคว้าโรงไปค่อนข้างจะน้อยกว่าเรื่องอื่นๆ(ระดับ 50 โรง)อยู่พอสมควร รวมไปถึงรายได้เปิดตัวของหนังที่ 4.51 ล้านบาท เมื่อลองนำไปเทียบกับหนังคนแสดงเอเชียเรื่องอื่นๆ ในรอบปีนี้ หนังกลับทำรายได้เปิดตัวในระดับหัวตารางของกลุ่มนี้ไปซะอย่างนั้น! แซงกระทั่งหนังแอ็กชั่นทุนสูงของเฮียเฉินหลง อย่าง Bleeding Steel (4 ล้านบาท) และเป็นรอง The Monkey King 3 (6 ล้านบาท) และ Along with the Gods: The Last 49 Days (5 ล้านบาท) เพียงสองเรื่องเท่านั้น! แต่ตัวเลขนี้กลับดูธรรมดาไปเลยสำหรับผู้กำกับ จอน เอ็ม. ชู เพราะหนังเรื่องก่อนๆ ของเฮียแกถือว่าอยู่ในระดับ “หนังทำเงิน” ของบ้านเราแทบทั้งนั้น! (อย่าง Step Up 3D, G.I. Joe 2: Retaliation, Now You See Me 2 ต่างก็เปิดตัวในบ้านเราไม่ต่ำกว่า 20 ล้านกันแล้ว)

ขณะที่หนังใหม่เรื่องอื่นๆ อย่าง A-X-L รายได้เปิดตัว 4.38 ล้านบาท ก็ถือว่าไม่มีอะไรน่าหวือหวาซักเท่าไหร่ในบ้านเรา โดยเฉพาะในกลุ่มหนังหุ่นยนต์ด้วยกันที่ส่วนใหญ่เป็นหนังฟอร์มโตกันทั้งนั้น (ใกล้เคียงที่สุดก็คงเป็นหนังฮีโร่สวมเกราะที่มีหุ่นยนต์เป็นคู่หูอย่าง Max Steel เคยเปิดตัวในบ้านเราไป 6 ล้านบาทเมื่อสองปีก่อน)

หนังตามหาลูกสาวที่หายตัวไปอย่าง Searching เปิดตัวในบ้านเราไป 4.37 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างใช้ได้เลยสำหรับหนังที่ดำเนินเรื่องด้วยมุมกล้องจากเทคโนโลยีสมัยใหม่รูปแบบต่างๆ ที่คนดูจำนวนไม่น้อยอาจจะไม่ค่อยถูกจริตซักเท่าไหร่ และเปิดตัวได้มากกว่าหนังสยองขวัญที่ใช้แนวทางเดียวกันอย่าง Unfriended เมื่อสามปีก่อนอยู่พอสมควร (เรื่องหลังเปิดตัวไป 2.8 ล้านบาท)

อีกหนึ่งหนังใหม่ที่ติด Top 10 ก็คือนักสืบตี๋เหรินเจี๋ยภาคล่าสุด ในชื่อว่า Detective Dee: The Four Heavenly Kings เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไปที่ 2.2 ล้านบาท พลิกแซงรายได้ของภาคสอง(2 ล้านบาท)ไปแบบเฉียดฉิว! เลยทำให้เป็นรองภาคแรก(4.4 ล้านบาท)เพียงภาคเดียวเท่านั้น

ส่วนหนังเก่าที่น่าสนใจและน่าตกใจที่สุดในสัปดาห์นี้คงหนีไม่พ้นหนังสารคดี BNK48: Girls Don’t Cry หลังจากที่สัปดาห์ก่อนเกือบสร้างสถิติเป็นหนังสารคดีเปิดตัวสูงสุดในบ้านเรา ดูเหมือนรายได้ของหนังจะเริ่มลดลงไปทุกวันๆ ในรอบสัปดาห์ จนพอมาถึงสุดสัปดาห์ที่สอง นอกจากจะร่วงลงมาอยู่อันดับ 10 รายได้ของหนังยังลดลงไปแบบหน้าใจหาย เหลืออยู่เพียง 1.24 ล้านบาทเท่านั้น โดยลดลงจากสัปดาห์ก่อนถึง 88% เลยทีเดียว!!! ยังโชคดีที่ว่าอย่างน้อยๆ หนังก็ไม่ใช่หนังทำเงินลดลงสัปดาห์ที่สองมากที่สุดในรอบปีนี้ แต่ในกลุ่มหนังที่เคยได้โรงฉายวงกว้างในระดับแตะร้อยโรงในสัปดาห์เปิดตัว เหล่าสาวๆ BNK ของเราก็ยังคงได้สถิติ(ด้านลบ)นี้ไปครองอยู่ (ชนะเจ้าของสถิติเดิมอย่าง Death Wish ที่ลดลงไปถึง 87% ไปแบบเฉียดฉิว) ทำให้จากที่จะคว้าตำแหน่ง หนังสารคดีทำเงินสูงเป็นอันดับสองตลอดกาลในบ้านเราไปแบบสบายๆ (แซงหนังของราชาเพลงป๊อป Michael Jackson’s This Is It) ดูท่าจะต้องรอลุ้นไปอีกซักพักแล้วล่ะ

Top 10 สุดสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมกันไป 43 ล้านบาท
ลดลงจาก Top 10  สุดสัปดาห์ก่อน 18% (53 ล้านบาท)
แต่ก็ยังอุตส่าห์เพิ่มขึ้นจาก Top 10  สุดสัปดาห์เดียวกันในปีก่อนถึง 59% (27 ล้านบาท)
ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่แอ็กชั่นปนฮาอย่าง The Hitman’s Bodyguard เปิดตัวขึ้นแท่นเป็นแชมป์แบบชิลๆ ในบ้านเราด้วยรายได้ 11 ล้านบาท